.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจปัดร่างกฏหมายคุ้มครองแรงงานที่เรายื่นเสนอต่อสภาในสมัย #พรรคอนาคตใหม่ ตกไป
.
ชนชั้นนำไทยไม่ต้องการให้คนมีความมั่นคงในชีวิต พวกเขาไม่เคยมองว่าสวัสดิการพื้นฐานคือสิทธิ พวกเขาต้องการให้ประชาชนอยู่อย่างอนาถาเพื่อรอคอยความเมตตาจากพวกเขา
.
พวกเขาจะได้อ้างการกดขี่เป็นบุญคุณเรื่อยไป
.
อนาคตใหม่เกิดมาพร้อมความปรารถนาที่จะเห็นคนเท่าเทียมกัน ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงานที่ดีทำ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และมีความหมาย
.
พวกเรานำเสนอร่างกฏหมายคุ้มครองแรงงานเข้าสู่สภา ร่างนี้มีข้อเสนอหลายอย่าง เช่น
.
(1) ร่างนี้เสนอให้ลดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์จากไม่เกิน 48 ชั่วโมง เหลือไม่เกิน 40 ชั่วโมง โดยที่รายได้ไม่ลดลง
.
คนงานทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หากรวมโอทีแล้วอาจถึง 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พวกเขาย่อมไม่สามารถมีเวลาเพียงพอสำหรับครอบครัว ไม่มีเวลาพอสำหรับเอาใจใส่ลูกหลาน ไม่มีเวลาอ่านหนังสือหาความรู้ ไม่มีเวลาติดตามข่าวสารหรือมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่มีเวลาออกกำลังกายรักษาสุขภาพ
.
ลำพังวันอาทิตย์ ซักผ้าก็หมดวัน
.
(2) ร่างนี้เสนอให้เพิ่มวันลาคลอดจาก 90 วันเป็น 180 วัน โดยผู้ลาได้รับเงินเดือนเต็ม และสามารถเลือกให้ พ่อ แม่ หรือคู่ชีวิต ใช้วันลาได้
.
ข้อเสนอนี้จะทำให้เด็กแรกเกิดได้รับการดูแลที่ใกล้ชิดขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ ผู้หญิงมีโอกาสกลับเข้าสู่การทำงานหลังคลอดบุตรได้ง่ายขึ้น
.
(3) ร่างนี้เสนอให้ยกเลิกการจ้างงานรายวัน สำหรับงานที่มีลักษณะประจำ ให้เปลี่ยนเป็นจ้างรายเดือนแทน
.
ลูกจ้างจำนวนมาก ทำงานที่มีลักษณะประจำ ซ้ำๆ เหมือนกันทุกวันทั้งปี แต่ลักษณะการจ้างกลับเป็นการจ้างรายวัน เพื่อเพิ่มความมั่นคงในชีวิตให้พวกเขา งานเหล่านี้ควรมีลักษณะการจ้างแบบรายเดือนซึ่งจะทำให้พวกเขามีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น
.
ผมโกรธมากที่ประยุทธ์ปัดร่างกฏหมายนี้ตกไป ร่างกฏหมายนี้มาจากนโยบายหาเสียงพรรคอนาคตใหม่ เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะดีจะเลวอย่างไร อย่างน้อยต้องเคารพเสียง และความเห็นของผู้แทนประชาชน ให้โอกาสนำมันเข้าสู่สภา และปล่อยให้ ส.ส. ใช้วิจารณญาณ ตัดสินในสภาผู้แทนราษฎร
.
“เกิดมาเป็นคนจน ยามคบคนไม่เคยเป็นต่อ” อย่างที่บางท่อนบางตอนของเพลงเพลงหนึ่งว่าไว้
.
ลูกหลานคนจนเข้าโรงเรียนก็ไม่มีความมั่นใจ ต้นทุนทางสังคมน้อย จะเสี่ยงดื้อต่อระบบ ราคาที่ต้องจ่ายก็แพงมหาศาล
.
อำนาจมันเหลื่อมล้ำ สิทธิ์มันไม่เท่ากัน ไปไหนมาไหนก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่กล้าพูดกล้าจา ในสังคมที่เต็มไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์
.
เข้ามหาลัยก็ต้องกู้ กยศ. เรียนจบมาก็ติดหนี้ไปแล้ว 3 แสนบาท เริ่มชีวิตก็ไม่เท่ากันแล้ว แล้วจะเอาต้นทุนที่ไหนกล้าเสี่ยงลงทุนเป็นผู้ประกอบการ
.
การเลือกเดินตามฝัน ตามความถนัดเป็นเรื่องห่างไกลความจริง ขอมีงานที่มั่นคงทำ ก็โชคดีถมไปแล้ว หลายคนพ่อแม่จึงอยากให้รับราชการ เพราะชีวิตของคนทั่วไปมันเปราะปางเกินไป
.
ผิดกับลูกหลานคนมีเงิน ได้เรียนโรงเรียนดี มีความมั่นใจตัวเอง ไปไหนก็กล้าถาม กล้าแสดงออกแสดงความเห็น เข้าถึงภาษาอังกฤษได้ก็เข้าถึงความรู้ได้มากกว่า
.
เรียนจบออกมา พ่อแม่พอมีทุนบ้างก็พอจะเสี่ยงตั้งสตาร์ทอัพได้
.
มันไม่ใช่เรื่องบุญกรรม ไม่ใช่ว่าชาติที่แล้วเราทำบุญมาไม่พอ แต่มันเป็นเรื่องของอำนาจในการจัดสรรทรัพยากร ประชาชนไม่เคยมีอำนาจ ระบบระเบียบจึงเป็นเช่นนี้
.
ครั้งพอประชาชนมีอำนาจขึ้นมาบ้าง จะจัดสรรกฏกติกาใหม่ ขอความเป็นธรรมในการแบ่งดอกผลของการพัฒนาบ้าง ก็ปัดกฏหมายของเขาตกไปโดยไม่ผ่านสภา หรือไม่ก็ยุบพรรคเขา ถ้ายังหยุดไม่อยู่ ก็ทำรัฐประหาร แผ่นดินจึงเดือดดาลเช่นนี้
.
เรา แกนนำพรรคอนาคตใหม่เดิม ที่ตั้ง #คณะก้าวหน้า ขึ้น ยังยืนยันที่จะสร้างสังคมเท่าเทียม นโยบายท้องถิ่นของเราเน้นที่เรื่องสวัสดิการพื้นฐานที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น มากกว่าจะเน้นสร้างแลนด์มาร์คที่ไม่มีประโยชน์ในจังหวัด
.
การคมนาคมสาธารณะที่ถูก รวดเร็ว และตรงเวลา จะทำให้คนลดต้นทุนการเดินทางและเข้าถึงโอกาสในชีวิตมากขึ้น
.
ศูนย์ดูแลเด็ก คนแก่ และผู้ป่วยติดเตียงจะช่วยให้ครอบครัวที่รายได้ต่ำมีทางเลือก ศูนย์ฟอกไตใกล้บ้านจะลดภาระครอบครัวที่มีผู้ป่วยไตเรื้อรัง
.
ศูนย์การเรียนรู้สมัยใหม่จะทำให้ลูกหลานคนรายได้น้อยได้เข้าถึงเทคโนโลยี
.
สิ่งแวดล้อมที่ดีจะลดความเครียดในชีวิต คนมีสุขภาพดี
.
เหล่านี้คือนโยบายท้องถิ่นของเรา
.
ประเทศไทยที่ดีกว่านี้ เท่าเทียมกว่าเป็นไปได้
.
แม้ร่างกฏหมายคุ้มครองแรงงานของเราจะถูกประยุทธ์ปัดตกไป แต่เรายังจะทำงานต่อ เพื่อสักวันหนึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นจริง
.
#แรงงาน #คุ้มครองแรงงาน #ประยุทธ์ #ท้องถิ่นก้าวหน้า #เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา
Jitthima Meeaitsara
อีก10ปีหากชีวีของฉันยังไม่สิ้นไป หวังเหลือเกินว่าจะได้ใช้ชีวิตหลังเกษียรอย่างมีความสุข ลูกหลานทำมาหากินได้แบ่งเก็บออม ครอบครัวพร้อมหน้าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อโอกาสของคุณธนาธรมาถึงปชชรากหญ้าคงลืมตาอ้าปากได้ไม่เป็นหนี้ หนึ่งเสียงจากคนจนๆที่เชื่อมั่นในตัวคุณธนาธรค่ะ
X Piyawat Sangkaew
ผมเชื่อว่า คุณธนาธรหวังดีกับประเทศไทย หวังดีกับประชาชน คนชั้นนำหรือมหาเศรษฐีบ้านเรา ถ้ามีแนวคิดเหมือนกับคุณ ธนาธร ประเทศคงพัฒนาไปได้ไกล เป็นกำลังใจให้ครับ หนึ่งเสียงของคนธรรมดา
Paitoon Buakai
อ่านแล้วเข้าใจ อย่างตรงไปมา ถ้ามีการเลือกตั้งอีกครั้ง ยังเป็นตัวเลือก ๑ หรือ ๒ ชอบแนวคิด ตรงกับชีวิตที่ผ่านมา เกิน 40 ปี ขอให้ประสบผลสำเร็จ ขอเป็นกำลังใจ ครับ
ธนัญชนก คูคานนอก
นี่คือคนที่เข้าใจความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง คนที่ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด เข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน เชื่อว่าถ้าคุณธนาธรได้เป็นผู้บริหารประเทศ ประเทศเราจะไปได้ไกลกว่านี้ ระบบเศรษฐกิจ ระบบการศึกษา การรักษาพยาบาล และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมจะต้องดีกว่านี้แน่นอน
ณัฐวัฒน์ศร ดอนเหลือม
ผมคน เรียนมาน้อยใช้แรงงานขั้นต่ำ ผมเข้าใจสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น รับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง ที่ได้รับรู้ในชีวิตจริง คนรวย คนจน มันเป็นยังไง ความเท่าเทียบ ในสังคมแทบไม่มี ผมอยากเห็นจุดเปลี่ยนประเทศมาก ตอนนี้ สู้คับ คณะคนาคตใหม่
Yongyuth Poonsap
คนงานไม่ต่ำกว่า40%ในประเทศที่โดนกดขี่ค่าแรงเสรีภาพด้านเวลาใช้ชีวิต แต่ด้วยปากท้องของลูกน้อยที่ต้องดูแลเขาจึงต้องยอมโดนกดขี่จากนายจ้าง
พ่อแม่ของคนยอมสระเสรีภาพของตนยอมโดนกดขี่เองแลกค่าปากท้องค่าเล่าเรียนของลูกตน
บทความนี้อิงจากเรื่องจริง ชีวิตจริงจากเกิดขึ้นกับหลายๆครอบครัวรวมไปถึง ”พ่อของผม”
FB Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
