นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตนได้สั่งการให้กรมการภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดและเพิ่มความเข้มงวดมากเป็นพิเศษ แม้จะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ยังมีการเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว รวมทั้งให้ตรวจสอบต่อเนื่องจนถึงวันที่ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบประชาชน
“การดูแลประชาชนด้านราคาสินค้าได้สั่งการมาตั้งแต่ต้นอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันก็ให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยตรวจสอบดูแลร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสใช้โครงการของรัฐหาประโยชน์หรือเอาเปรียบจากประชาชนเวลานี้เช่นกัน โดยเฉพาะการเพิ่มราคาหรือบวกราคามากกว่าปกติ ” นายจุรินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การดูแลตรวจตราช่วงนี้นั้นเน้นสถานที่สำคัญด้วย เช่น สถานีขนส่งหมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย สถานีขนส่งของเอกชน สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีรถไฟที่เป็นเมืองท่องเที่ยว สนามบิน ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองและสนามบินในส่วนภูมิภาค รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ เพราะสถานที่เหล่านี้ ประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงอาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ ในส่วนของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ขอให้ตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมัน โดยให้ตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่ เพื่อเป็นการดูแลประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งจะต้องเน้นในจังหวัดที่เป็นทางผ่านออกไปยังจังหวัดต่างๆ และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน ขอให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของ บริการรถเข็นสัมภาระ จะต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ โดยติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน ต้องแสดงราคาต่อหน่วย มีตัวเลขอารบิกเห็นได้ชัด อ่านง่าย และหากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการ ก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากประชาชน พบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แหล่งข่าว https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/931641