(22 มี.ค.64) จากกรณี ปฏิบัติการ “สยบไพรี ตอน สยบบูรพา” โดย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รองผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง ได้ขยายผลจับกุมเครือข่ายยาบ้า ของ นายสรกฤช สนธิ์ศิริ อายุ 33 ปี หรือฉายา “กุ๊กระยอง” ที่ออกหมายจับไว้แล้ว สามารถจับกุมตัว นายทัตเทพ อรุณ อายุ 26 ปี ได้ที่ อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมยึดทรัพย์สิน ทั้งบ้านและรถยนต์ รวมนับร้อยล้านบาท นอกจากนี้ยังอายัดแมวรวม 6 ตัว ประกอบ ด้วย แมวพันธุ์ สก๊อตทิช โฟลด์ 5 ตัว และ แมวพันธุ์เบงกอล 1 ตัว ที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ภายในกรงอย่างดี ของบ้านที่ถูกยึด จนเป็นที่สนใจของบรรดาทาสแมวเป็นอย่างมาก ตามข่าวที่นำเสนอไป
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ทีมข่าววาไรตี้สัตว์เลี้ยง ได้เดินทางไปยังที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อสอบถามกรณีที่ นายปรากร แวววับศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแล แมวของกลางที่ยึดมาทั้ง 6 ตัว เมื่อเดินทางไปถึง ผู้ใหญ่ปรากร ได้พาเดินทางไปยังบ้านของ นางภัทรภร อินแก้ว อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 61/2 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง เป็นบ้านที่รับดูแลแมวทั้ง 6 ตัว สาเหตุที่ไปฝากให้บ้านหลังนี้ดูแล เพราะเป็นคนรักแมว โดยบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีต้นไม้ขึ้นร่มรื่น พบกับ นางภัทรภร เจ้าของบ้าน ที่พร้อมพาไปดูแมวของกลาง ที่ถูกนำกรงไปไว้ในพื้นที่ข้างบ้าน ที่มีหลังคาและมีการนำกล่องเหล็กมากันทางเข้า เพื่อป้องกันสุนัข เมื่อเข้าไป ก็พบกับกรงแมวจำนวน 2 กรง โดยกรงแรกมีแมวพันธุ์สก๊อตทิช โฟลด์ จำนวน 4 ตัว เพศเมียทั้งหมด เป็นแมวสีเทาลาย 2 ตัว และ สีขาว-ดำ 2 ตัว ส่วนอีกกรงเป็นแมวสก๊อตทิช โฟลด์์ 1 ตัว เป็นเพศผู้สีเทา-ขาว อายุทั้ง 5 ตัว ประมาณ 1-2 ปี และ แมวพันธุ์เบงกอล 1 ตัว ซึ่งทั้งหมดเชื่องมาก แต่จะมีอาการซึมบ้าง และ พยายามมองดูคนที่มา คล้ายกำลังมองหาเจ้าของ เมื่อเข้าไปใกล้ แล้วไม่ใช่เจ้าของจะเบือนหน้าหนี และไม่ค่อยอยากให้จับตัว
ต่อมาน้องเค้ก บุตรสาวเจ้าของบ้าน ก็ได้อุ้ม แมวเบงกอล ซึ่งเป็นแมวเพศผู้ ออกมาจากตัวบ้าน โดยที่เจ้าเบงกอล ดูมีความเชื่อง และติดน้องเค้กมาก ดูไม่มีความกลัวคนเลย โดยน้องเค้ก ได้เปิดเผยว่า ปกติเป็นทาสแมวอยู่แล้ว และเมื่อได้มีการนำแมวของกลางมาฝากให้ดูแล ก็ยินดี ซึ่งในคืนแรก แมวทั้งหมดก็มีร้องบ้าง เสมือนกับผิดที่ และคงคิดถึงเจ้าของ เพราะเห็นมองออกนอกกรงตลอดเวลา เมื่อมีคนมาดู ก็รู้สึกสงสารในโชคชะตาของแมวทั้งหมด
ด้านนางภัทรภร เจ้าของบ้านดูแลแมวของกลาง ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่รับแมวมาช่วยดูแล ก็ได้ติดต่อไปทางญาติของเจ้าของแมว ซึ่งรู้จักกัน เมื่อสอบถามว่าจะเอาแมวไปดูแลหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีใครเอา ทางตนเองก็ยินดีดูแลแมวทั้งหมดให้อย่างดีจนกว่าทางเจ้าหน้าที่จะมารับไปขายทอดตลาด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทางเจ้าหน้าที่จะดูแลให้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถือว่าทำบุญ เพราะสงสารแมว นอกจากนี้ยังมีทาสแมวแห่กันเข้ามาขอดูแมว บางรายก็อยากจะร่วมประมูล หากมีการเปิดขายทอดตลาด
ด้านผู้ใหญ่ปรากร ได้กล่าวว่า สำหรับแมวทั้ง 6 ตัว ทางตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลไว้ก่อน แต่เนื่องด้วยที่บ้านจะร้อนมากจึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับแมว จึงนำมาฝากให้กับคนที่รักแมวเลี้ยง ซึ่งก็เป็นลูกบ้าน ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูทางเจ้าหน้าที่จะออกให้
ด้านทาง พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้อธิบายว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวนั้น เป็นไปตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ในเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้จากมาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนจนปรากฏชัดแจ้งว่า ผู้ต้องหามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และศาลได้อนุมัติหมายจับ ดังนั้นทรัพย์สินที่ยึดมาได้นั้น ไม่ว่าจะเป็น สังหาริมทรัพย์ หรือ อสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน เครื่องประดับ หรือสัตว์ทั้งที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจหรือสัตว์เลี้ยง เช่น ฟาร์มปศุสัตว์ วัว จระเข้ รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงราคาแพงที่อาจได้มาจากเงินที่ได้จากการจำหน่ายหรือที่เกี่ยวข้องยาเสพติด เจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินเหล่านั้นและดำเนินการต่อไปตามกฎหมายข้างต้นได้
ดังนั้นสำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้น เข้าค้นบ้านพักของหญิงสาวที่ศาลอนุมัติหมายจับในคดียาเสพติด (อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม) โดยได้พบแมวราคาแพง จำนวน 6 ตัวอยู่ในกรงภายในบ้านดังกล่าว คือ พันธุ์เบงกอล 1 ตัว และพันธ์ุสก๊อตทิช โฟลด์ 5 ตัว หากไม่มีคนดูแลให้อาหารอาจจะต้องอดตายได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดแมวทั้ง 6 ตัว เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ จึงขอเรียนให้กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงได้สบายใจ ว่าทางตำรวจได้เคลื่อนย้ายแมวทั้งหมดออกมาดูแลอย่างดี ตามหลักสากล จากนั้นได้ส่งมอบให้ สำนักงาน ป.ป.ส. และต่อมาได้มอบให้กับ สำนักงานปศุสัตว์ อ.แกลง ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์เข้ามาดูแลตรวจสอบสุขภาพ และหาผู้ที่รัก มีประสบการณ์และเข้าใจธรรมชาติของแมวเป็นอย่างดีเพื่อเลี้ยงดูแมวทั้งหมดเป็นการชั่วคราว ระหว่างรอดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม รองโฆษก ตร. เน้นย้ำกับทีมข่าววาไรตี้สัตว์เลี้ยงว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายคำนึงการปฏิบัติตามหลักเมตตาธรรมกับสัตว์ที่พบเจอ หรือเกี่ยวข้องกับคดีอยู่แล้ว เพราะเค้าก็มี 1 ชีวิตเหมือนกับมนุษย์เช่นกัน จึงขอให้ทาสแมวไม่ต้องเป็นห่วง.
รู้จักสายพันธุ์สก๊อตทิช โฟลด์
อีกหนึ่งสายพันธุ์น้องแมวที่เป็นที่รู้จักมากไม่แพ้สายพันธุ์ไหนก็คือ สายพันธุ์สก๊อตทิช โฟลด์ [Scottish fold] ที่มีหูพับอันเป็นเอกลักษณ์แสนเก๋ที่ไม่เหมือนใคร หน้ากลมแป้น ขนอุยนุ่มน่ากอด ทำให้น้องแมวพันธุ์สก๊อตทิช โฟลด์ น้องแมวผู้มาจากสกอตแลนด์ ยึดพื้นที่หัวใจเจ้าของหลาย ๆ คนไปแล้ว แมวสายพันธุ์นี้มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 11–14 ปี ความสูงอยู่ที่ 10–12 นิ้ว ด้วยหูที่พับลงมา ทำให้ใบหน้าของสก๊อตทิช โฟลด์ ดูกลม จนหลายคนให้คำอธิบายแมวสายพันธุ์นี้ไว้อย่างเห็นภาพว่าเหมือนกับ นกฮูก โดยใบหูของสก๊อตทิช โฟลด์ จะมีทั้งแบบพับงอไปด้านหน้า เรียกว่า single fold แบบพับงอที่มากขึ้นหรือ double fold และแบบที่พับราบไปกับหัว หรือ triple fold โดยลูกแมวที่เกิดมาแล้วมีใบหูตั้งก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะใบหูของลูกแมวที่พับจะเริ่มมองเห็นเมื่อแมวมีอายุประมาณ 3 สัปดาห์ สก๊อตทิช โฟลด์ ค่อนข้างมีนิสัยที่อ่อนไหวง่าย ชอบแสดงอารมณ์ แต่ก็มีความขี้เล่น และแอคทีฟในเวลาเดียวกัน
รู้จักแมวเบงกอล
ปัจจุบันแมวเบงกอลเริ่มเป็นที่รู้จักในไทยมากขึ้น แต่อาจยังไม่แพร่หลายเหมือนแมวชนิดอื่น ๆ เนื่องจากยังมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งแมวเบงกอล ราคาอยู่ที่ประมาณ 17,000-170,000 บาท ดังนั้นเมื่อตัดสินใจซื้อมาแล้ว ควรใส่ใจดูแลอย่างดี ซึ่งวิธีการเลี้ยงก็ใกล้เคียงกับแมวทั่ว ๆ ไป เพราะถือเป็นแมวบ้านเช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่น แต่ถ้าหากอยากให้แมวสวย สุขภาพดี และมีขนที่สวยงาม การเลือกอาหารที่ดีให้กับแมวนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ อาหารสำเร็จรูปที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าขนและสุขภาพของแมวนั้นจะสวยที่สุด ส่วนเรื่องของการตัดเล็บ อาบน้ำ แปรงขน เช็ดหู และทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ นั้น จะเหมือนกับแมวทั่ว ๆ ไป เรื่องอาหาร แมวเบงกอลอาจจะต้องการเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากกว่าแมวทั่วไปเล็กน้อย โดยผู้เลี้ยงอาจจะให้เนื้อวัวสดวันละครั้งเพิ่มเติมจากอาหารที่กินอยู่เป็นประจำ ซึ่งจะไม่ทำให้ท้องเสียหรือเสียสุขภาพ เนื้อสดที่ให้ควรระมัดระวังความสะอาดด้วยการแช่แข็งเอาไว้เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย และควรเก็บเนื้อที่เหลือทิ้งทันที อย่างไรก็ตาม ห้ามให้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูสดเด็ดขาด